กาแฟ เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ รสสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร กาแฟแต่ละสายพันธุ์มีกลิ่นหอม รสชาติและปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน
ตัวคาเฟอีนนี้แหละ ที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เพราะคาเฟอีนเป็นสารสื่อประสาทชนิดหนึ่งในสมอง มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวและลดความง่วง
กาแฟนับเป็นแหล่งของคาเฟอีนตามธรรมชาติ ซึ่งสายพันธุ์และกรรมวิธีการผลิตเมล็ดกาแฟคั่วและอบ จะมีผลต่อปริมาณคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนสลายตัวได้ระหว่างการให้ความร้อน
ส่วนฤทธิ์ของคาเฟอีนที่มีผลต่อระบบส่วนกลางของสมองจะขึ้นอยู่กับปริมาณของคาเฟอีนที่ได้รับ
ถ้าร่างกายได้รับ 50-200 มิลลิกรัม จะไปกระตุ้นทำให้ไม่ง่วง มีความตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ถ้าได้รับขนาด 200- 500 มิลลิกรัม อาจทำให้ปวดศีรษะ เครียด กระวนกระวาย มือสั่น นอนไม่หลับ
แต่หากได้รับขนาด 1,000 มิลลิกรัม จะเริ่มทำให้เกิดพิษของคาเฟอีนที่เรียกว่า Caffeinism มีอาการกระสับกระส่ายอยู่นิ่งไม่ได้ หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และปัสสาวะบ่อย
อาการข้างต้นเป็นผลเฉียบพลันที่เกิดกับผู้ที่ไม่ได้รับคาเฟอีนเป็นประจำ อาการจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความต้านทานฤทธิ์คาเฟอีนของแต่ละคน
ผู้ที่ได้รับคาเฟอีนเป็นประจำ ฤทธิ์เหล่านี้จะลดลงเนื่องจากร่างกายเริ่มทนต่อฤทธิ์ของคาเฟอีนได้
วันนี้ สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างกาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงหรือกาแฟ 3 in 1 จำนวน 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณคาเฟอีน
ผลวิเคราะห์พบว่าใน 1 ซองมีคาเฟอีนอยู่ในช่วง 83-122.48 มิลลิกรัม
วันนี้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกาแฟสามารถเลือกดื่มกันได้ตามความชอบ แต่ขอแนะว่าต้องคำนึงถึงปริมาณที่ร่างกายของเราสามารถทนทานต่อฤทธิ์ของคาเฟอีนได้ด้วยเพื่อความปลอดภัย.
ที่มา: www.thairath.co.th
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด